แนวทางการศึกษาต่อฉบับกูรู


การเตรียมตัวที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา 
         ๑.๑เลือกดูสาขาที่ตนเองสนใจ วิชาที่เรียน ความชอบ
พี่คิดว่าในความเป็นจริงที่เราชอบกับการเลือกคณะมันต่างกัน เราคิดว่าการเลือกคณะะได้มากจะเป็นประโยชน์พี่คิดว่ากับเป็นข้อเสียเพราะมันทำให้เราอาจกระเด็นไปอยู่คณะที่เราเลือกเผื่อติด หรือฟลุ๊คได้นั่นเอง พี่คิดว่าควรอยู่ที่สองถึงสามคณะกำลังดี ทำให้เราเรียนในคณะที่ชื่นชอบแน่นอน ไม่ต้องซิ่ว และที่สำคัญต้องรีบหาตัวเองให้เจอเร็ว พี่แนะนำนะรีบไปทำแบบทดสอบของeduzones.comที่เป็นแบบประเมินความถนัด ความชอบ แบบทดสอบนี้จะมีแบบกดสอบดทางจิตวิทยาด้วย ที่สามารถประเมินว่าเราจะเหมาะกับอะไร พี่รู้สึกว่าโปรแกรมนี้เหมาะสำหรับน้องๆที่ยังเป็นกระทงหลงทางอยู่ไม่รู้ตัวเองจนวินาทีสุดท้าย รีบซะรีบไปทำแบบทดสอบนี้ก่อนจะสาย ต่อจากนั้นก็ลองไปดูว่าสาขาที่เราจะเรียนเค้าเรียนอะไรกันบ้าง เช่นวิศวะเครื่องกลเน้นหนักไปทางคำนวน ทั้งกลศาสตร์ และต้องมีพื้นฐานฟิสิกส์และคณิตดีหากเก่งเคมี และชีวะคงไม่รุ่งเหมือนเพื่อนพี่ที่จบมาบางคน อย่าคิดว่าถ้าขยันแล้วจะอยู่รอด พี่ว่าทรมานตัวเองสุดๆ เพราะเราต้องขยันกว่าคนที่เค้าถนัดสองเท่า ขนาดคงที่เก่งฟิสิกส์กับคณิตเข้าไปเรียนยังแย่เลย หากเข้าไปอาจชะตาขาดตั้งแต่ปีแรกๆ ส่วนพวกเด็กศิลป์หรือผู้ที่จะเรียนทางสายกลุ่มภาษา มนุษย์ สังคม ก็ควรจะเด่นภาษาไทย สังคม อังกฤษ หากมภาษาต่างประเทศอื่นที่ดีก็จะเลิศมากๆ เพราะก็เรียนแต่พวกนี้ตลอดหลักสูตร อย่างมากอาจเจอวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวันซักตัวหรือคณิตสำหรับนักมานุษย์ศาสตร์ซึ่งง่ายกว่าม ปลายมาก เหมาะสำหรับเด็กที่วิ่งหนีวิชามหากาพย์อย่างเคมี ฟิสิกส์ ชีวะ คณิต หรือพวกที่เกลียดการคิดแบบตรรกที่ตายตัวมีกฏเกณฑ์ แต่มนุษ สังคมต้องสนใจภาษาวรรณคดี มีจินตนาการสูง มีความขยันที่จะอ่านวรรณกรรม นิยาอะไรประมาณนี้ และชอบสุนทรียะนึกว่าเป็นนางเอกก็จะเลิศมากๆเพราะสามมารถเข้าใจความงานทางภาษาในมุมมองที่ลึกซึ้งได้ พี่อยากบอกว่าหากเก่งวิชาภาษาแล้วจะรุ่งมาก และที่สำคัญสายวิชาน้คะแนนสูงต้องพยามทำให้มากกว่า60/ก็จะเยี่ยม เพราะอย่างอักษรศิลปากรก็73/ ไปแล้วพวกนี้เกิดมาเพือ่ภาษาจริงๆ ทำได้ดีทั้งวไทยสังคมอังกฤษ ฝรั่งเศษและอื่นๆ ส่วนพวกที่จะเรียนสายวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์อย่างคณิต ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ต้องเล็งก่อนว่าต้องขยันและมีวิชานั้นๆดีเลิศเช่นจะเรียนเคมีควรกลุ่มสาระทางวิทยาศาสตร์3-3.5เพราะถึงแม้ว่าสาขาวิทยาศาสตร์บริสุทธ์จะคะแนนต่ำ แต่เรียนค่อนข้างหนัก และเป็นวิชาการมาก หากไม่สามารถมีพื้นฐานที่ดีพอพี่เชื่อว่าคงอยู่ได้ไม่นานหมดเฟรชชี่คงเตรียมหิ้วกะเป๋ากลับบ้านเพราะถูกเชิญให้ออกไปเรียนสาขาอื่น และต้องคำนึงว่าสาขาเหล่านี้ไม่ค่อยมีงานรองรับถ้าเป็นอาจารย์ต้องไปเรียนวิชาชีพเพิ่มโอกาสก้าวหน้าคือการศึกษาต่อเป็นนักวิทยาศาสตร์ ในสถาบันวิจัยหรือมหาวิทยาลัย งานอาจจะมากเฉพาะเคมี แต่พี่ว่าฟิสิกส์ ชีวะนี่มืดหลายด้านเลย จบมายากแล้วยังหางานยากอีกก็คงไม่เวิก ส่วนพวกที่จะเรียนสังคม รัฐศาสตร์ นิติพวกนี้ต้องชอบดูข่าวการเมือง ชอบด่าแบบมีเหตุมีผล แบบว่าอ้างหลักการเยอะๆอะ ต้องมองได้หลายๆด้านภาษาวิชาการเค้าเรียกว่าบูรณาการ เช่นมองปัญหาการสอบแอดมิดชั่นเป็นเรื่องการเมือง หรือมองเรื่องเศฐศาสตร์ได้ว่าเป็นอุปสงค์ส่วนเกิน อะไรประมาณนี้ เพราะสาขานี้มันใช้แนวโน้มหลากหลากมาคิด คือหนึ่งต้องชอบดูข่าว ชอบมองเห็นเรื่องใกล้ตัว ชอบเรียกร้องสิทธ์ไม่ยอมอะไรง่ายๆอย่างไม่มีเหตุผล หรือชอบเรียกร้องพวกนี้จะมีสายเลือดทางการเมืองพี่เองก็เป็นคนแบบนี้แหละ ชอบคิดอะไรกว้างๆ รู้รอบ และมีเหตุผล ส่วนนิติพี่ว่าหนึ่งต้องเป็นคนมีวินัยนะ เพราะหากเราแหกกฎโรงเรียนแล้วหากเราไปเรียนกฏหมายพี่ว่าเราจะแหกกฎทางสังคมมันจะเอื้อต่อการขัดต่อสังคม สิ่งหนึ่งที่นักกฎหมายควรมีคือ มีตรรก เหตุผลควรเก่งภาษาไทยพี่ว่าจะมีประโยชน์เพราะภาษากฎหมายไม่ใช่ภาษาในชีวิตประจำวันอ่านแล้วดูเข้าใจยาก ต้องแตกในการอ่านภาษา และที่สำคัญควรจะคิดอะไรแบบมีแบบแผน เพราะกฎหมายมีสภาพบังคับใช้มิได้เลือกว่าใครคนใดคนหนึ่งควรทำ ดังนั้นจึงต้องตายตัว ท่องจำเก่งก็มีประโยช์แต่นั่นแค่ส่วนหนึ่ง พี่ว่าถ้าอ่านตุ๊กตาเยอะๆหรืออรรคดีก็จะเป็นแนวในการวินิจฉัย อย่าเลือนลอย เพ้อเจ้อ จะเรียนกฎหมายไม่รุ่งต้องดูหนักแน่มีเหตุผล อ้างอิงเก่งรอบคอบมากมากและมีคุณธรรมเพราะกฎหมายมันเหมือนดาบสองคมผู้ใช้ควรคำนึงถึงความถูกต้องอย่าหากินกับช่องว่างทางกฎหมายเพราะจะทำให้สังคมสั่นคลอน ส่วนพวกที่จะเรียนบริหาร เศรษฐศาสตร์ ควรเป็นพวกชอบค้าขายมีไอเดียในกาขาย การหากำไร หรือแรงจูงใจต่อการซื้อ หรือชอบคิดที่จะทำโน่นทำนี่อะต้องเก่งคำนวนแบบเอาตัวรอดได้ที่สำคัญแคลคูลัสกับสถิติควรแม่น ที่สำคัญควรบวกลบเลขเก่งๆจะยิ่งดี เพราะเป็นวิชาที่ว่าด้วยการจัดการทรัพยากรให้เกิดประโยชน์เป็นมูลค่าเหมาะพวกที่อยากทำงานในออฟฟิส หรือชอบติดต่อค้าขาย วางแผน แบบหัวการค้าคิดรูปแบบใหม่ตลอดเวลา แต่บัญชีอาจแตกต่างไป เพราะบัญชีต้องเก่งคำนวญแม่นยำ ไม่วกวน เฉียบ และละเอียดรอบคอบเพราะเงินหายไปสิบล้านองค์กรแลย บัญชีต้องประเมินงบเก่ง ใช้ตังเป็นและประหยัด ส่วนเศฐศาสตร์อาจจะต้องเป็นนักคิดสักนิด ชอบเปรียบเทียบชอบซื้ของถูก ดี และประโยชน์ใช้สอยมาก เพราะคิดมาก เปรียบเทียบมากมันเป็นการเรียนรู้ทางทฤษฎีเพื่อมามองภาวะการ์ปัจจุบันและจัดการปัญหาให้ดีที่สุด
สายวิทยาศาสร์ประยุกต์สายนี้งานค่อนข้างมากเช่นฟุดเทค ไบโอเทค เคมีคอลเทคิค หรือวัสดุศาสตร์ปิโตรเคมี พอลิเมอร์ รังสี ความพร้อมก็ควรดูว่าเราเก่งวิทยาศาสตร์ด้านไหน เช่นปิโตรควรที่จะชอบเคมีมาก หรือวัสดุควรเลิศฟิสิกส์ เหรือไอซีทีก็ควรชอบคอมพิวเตอร์ คณิต และควรชอบเล่นเกมส์หรือพวกไฮเทค อะไรออกมาใหม่รู้มหดทั้งคอมทั้งมือถือ พี่ก็เรียนไม่ได้เหมือนกันเพราะมีคนชอบว่าพี่โลเทค และที่สำคัญะต้องไปเจอวิชาแกนที่ต้องมีพื้อนฐานวิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ที่ดีจะได้ต่อยอดได้ที่สำคัญต้องมีความคิดสร้างสรรค์และชอบวางแผนอาจต้องชอบวิชาบริหารด้วย จะทำให้สร้างศากยภาพในองค์กรเพื่อผลิตโปรดักได้เต็มที่ สายวิทยาศาสตร์การแพทย์ จุลชีวะ สายนีบอกเลยว่าเรียนหนัก งานหนัก ต้องเก่งวิทยาศาสตร์ทุกด้านอย่างดีเลิส เลิศมากๆควรมีเกรด 3.5ขึ้นเพราะเรียนหนักพี่กลัวสติแตกก่อน และต้องสม่ำเสมอ ขนัน ขวานขวาย เพราะวิชาคลีนิกเรียนหนักไม่เป็นเวลา ต้องทบทวนความครู้ทุกวันเพราะบทเรียนเยอะอย่างอานาโตมี โลหิตวิทยาพืษวิทยา ประสาทวิทยา ท่องจำเยอะหากไม่เก่งฟิสิกส์ก็พอให้อภัยยกเว้นสาขารังสีแพทย์ แพทย์ควรเก่งชีวะ เคมีอังกฤษมากๆ ส่วนเภสัชนี่ควรเด่นเคมี ชีวะ อังกฤษ เทคนิคการแพทย์ก็แนวแนวนี้ พยาบาลเบาหน่อย เน้นงานปฎิบัติ แต่ต้องโอบอ้อมอารีนะ กลัวมากเลยพยาบาลอารมณ์ร้อนวีลใส่คนไข้อะ เคยเจอกะตัวเองน่ากลัวมาก หมอยังอึ้งเลย เพื่อนพี่ที่เรียนสาขานี้ชีวิตกับการเตรดเตร่จะหายไป มีแต่เรียนกับขึ้นวอร์ด จะไปซอยสีก็ไม่ว่างว๋า พี่คงเรียนไม่ไหววะ เพราะพี่มันเด็กแนว เหมาะสำหรับพวกเก่ง ขยัน มีวินัย ไม่ย่อท้อ ไอ้เรามันโง่แล้วยังขี้เกียจอีก ส่วนพวกศิลปะนั้นก็มีสองแพจเกจคือพวกที่เน้นหนักด้านวาดรูป เรียนหนัก การใช้เทคนิคเฉพาะทาง พวกนี้จเน้นทักษะมาก เรียนหนักทั้งทฤษฎีและปฎิบัติ ต้องวาดรูปเก่งมากโดยเฉาะวาดเส้น พรอทเทด ภาพเหมือน แสงเงา สายตามองเห็นต้องดี และต้องมีวินัยเพราะงานเอยะ ส่วนงานออกแบบต้องสร้างสรรค์รู้จักประยุกต์และชอบแต่งเติม จัดวาง เก่งวิชาเรคณิต เก่งคอมกราฟฟิคได้ยิ่งดีใช้เอยะ สามดีแมกซ์ พรีเมียร์ อีลาสเตเตอร์ พวกนี้อะใช้หมด ที่สำคัญต้องชอบสร้างไอเดียที่หลากหลายมีโจทย์คิดหลายๆทางสร้างประโยชน์กับชิ้นงาน ที่เค้าชอบเรียกว่า เลือกที่จะแตกต่างอย่างมีไสตน์ นี่แหละคนที่จะเหมาะเรียนออกแบบ ชอบแต่งตัวแปลกๆ
สายเกษตรพี่ว่าโดนกับบ้านเราสุดเพราะเหมาะกับประเทศ อย่างคิดว่างานหนัก พี่ว่าดีออกเป็นเจ้าของเอง แค่ใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์มาเพิ่มผลผลิต และสร้างสายพันธ์ที่แข็งแรงทนต่อศัตรูพืช คนที่เรียนควรชอบชีวะนะพี่ว่าและรักประเทศ อย่าเอที่ทำกินไปแปงเป็นอย่างอื่นเลยดินหนึ่งไร่มีสินทรัพย์มากกว่าสิบล้านอีก หากเราเก็บกินใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนนายหลวงท่านยังทรงเล็งเห็นสาขานี้สำคัญมาก เพราะเป็นพื้นฐานของประเทศ จึงทรงมีพระราชดำริ ด้านการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมมาใช้ให้เกิดประโยชน์เช่นการพัฒนาพันธ์พืชนี่แหละเกษตรสายพันธืใหม่
ส่วนครูพี่ก็ว่าสำคัญ พี่อยากให้คนที่เป็นครูเป็นคนที่เรียนเก่ง มีคุณธรรมและมีใจรัก เพราะการศึกษาบ้านเราต้องการพัฒนา แต่ยังขาดแคลนบุคลากรในเชิงคุณภาพ ครูเป็นงานหนักและต้องใจรัก มีการพัฒนาตัวเองอยู่ อยากให้น้องๆที่เรียนเก่งหันมาเรียนครูเยอะขึ้นเพื่อประเทศ เพราะครูคือรากฐานทางความรู้ที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดการพัฒนา พี่หวังที่จะให้คุณครูทั้งเก่งและดี และกระจายได้อย่างเท่าเทียมทั้งในเขตเมืองและห่างไกลมีผู้ไปทำวิชาชีพอื่นที่มีผลประโยชน์ตอบแทนสูงกว่า พี่อยากให้ครูใช้ภาษาไทยได้ดี มีเหตุผล มีความรู้รอบตัวและมีเทคนิคการสอนที่ดี เหมาะสม เรียนรู้วิธีและนวัตกรรมใหม่ มีการฝึกอบรม วงการศึกษาจะทัดเทียมกับอารยะประเทศ 

         ๑.๒ดูตัวเองว่าใช่หรือไม่ชอบหรือไม่ชอบ เหมาะหรือเปล่า เช่นสองจุดห้าแต่อยากเรียนหมอ บ้านเรามันไม่เอื้ออะเพราะหมอต้องเพียร หรือเรียนนิเทศ ตามกระแส ทั้งที่ขี้อายมากชอบอยู่เงียบๆ หรือบางคนเรียนเก่งแต่ชอบเที่ยวก็ไม่เหมาะที่จะเรียนแพทย์ เภสัช น่าจะเรียนนิเทศ การท่องเที่ยว หรือบริหารเพราะจะได้มีเวลาแต่งตัวงดงามให้คนมอง เหมาะด้วย แต่ถ้าใครคิดว่าไหวก็ไม่เป็นไร ที่เห็นเพือ่นเวลาจะนอนยังจะไม่มีเลย จะแต่งให้สวยมากก็ไม่ได้เพราะท่องกายวิภาคยังไม่จบ 

         ๑.๓ดูสถานที่เรียนถ้าเราไม่อยากไปโหนรถเมย์บรรยากาศที่แออัดก็เรียนอยู่ตจว หรือถ้าเราไม่ชอบสภาวะการแข่งขันสูงก็อย่าไปเรียนมหาวิทยาลัยยอดฮิตอาจเหนื่อยได้เพราะเจอกูรูทำให้เราปรับตัวแบบแอคทิฟอย่างที่ไม่เคยทำมากอ่น อาจเครียด และกดดันจนเป็นเหตุให้เกรดเฉลี่ยตกลง และวิตกกังวนกับการเรียนมากจนเกินไป มหาวิทยาลัยต่างจังหวัดได้เปรีบเรื่องสถานที่ที่กว้างขวาง มีบรรยากาศการเรียนดี เช่นแม่ฟ้าหลวง มอนอพะเยา เชียใหม่ ศิลปากร(ทับแก้ว) แต่ถ้าหากใครชอบแบบประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ หรือที่ที่มีความหลังก็จุฬา ธรรมศาสตร์ ศิลปากร(วังท่าพระ)จะได้อารมร์อีกแบบหนึ่ง ตึกเรียนโบราณ สถานที่เรียนมีความสำคัญต่อประเทศชาติในฐานะการสร้างประวัติศาสตร์สังคม การเมือง (อย่าเรียนเพราะคิดว่าดีกว่าที่อื่น หรืออย่าเรียนเพราะที่นั่นดัง) แต่ถ้าอย่างมีความเชี่ยวชาญแบบสนใจเฉพาะทางก็ควรดูความชำนาญของสถานศึกษานั้นๆ เช่นจุฬา เด่น อักษร นิเทศ วิศวะ วิทยา ธรรมศาสตร์เด่น นิติ รัฐศาสตร์ สังคมวิท สงเคราะห์ บัญชี มหิดลเด่นแพทย์ เภสัช หมอฟัน สายวิทยาศาสตร์การแพทย์ส่วนศิลปากรเด่นด้านศิลปะและโบราณคดี หรือมศวเด่นด้านการศึกษา วิศวะควรเป็นพระจอมเกล้า หรือวิยาเกษตร ด้านอุตสาหกรรมของเกษตรศาสตร์ แต่อย่างไรทุกมหาวิทยาลัยลัยก็มีศากภาพ ในการสอนที่ดีไม่ต่องกันมากนัก แต่มีจุดเด่นจุดด้อยคนละแบบต้องศึกษาให้ดี อย่างมหาวิทยาลัยราชมงคล หรือราชภัฎก็มีศากภาพและเน้นงานชุมชน งานปฎิบัติ วิธีการรับอาจยืดหยุ่นกว่ามหาวิทยาลัยรัฐในระบบปิด จงอย่าเข้าใจว่าคณะที่คะแนนเอ็นสูงจะดีเสมอไป ให้ดูตัวคณาจารย์ งานวิจัย ความถนัด ว่าเราอยากเรียนด้านนี้จะได้เป็นประโยชน์กับน้องๆ ส่วนใครที่พลาดหวังก็ไปเรียนมหาวิทยาลัยเปิดก็ดี ราม มสท นิติเค้าดีมากเลย สาขาอื่นก็โอเค แต่เราต้องดูแลตนเอง เพราะมันไม่บังคับเข้าคลาสเรียนถ้าใครคิดว่าใจแตกง่ายอย่าไป สิ่งล่อใจเยอะ 

         ๑.๔ควรดูสายงานแต่อย่างไรก็ควรเอาตามความชอบมากที่สุด หากได้ทั้งสองอย่างทั้งความชอบ และสายงานก็ดีมาก สาขาขาดแคลนบ้านเราก็เคมี ปิโตร แพทย์ เภสัช ทันตะ ธรณี โลจิสติก เศรฐศาสตร์การเงิน นิวเคลียร์ แต่อยากจบมาหางานง่ายก็กลุ่มภาษา บริหารการท่องเที่ยวอะไรประมาณนี้


ขอขอบคุณแหล่งอ้างอิง : http://knowledge.eduzones.com/knowledge-2-2-40675.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น